top of page
ค้นหา

รักษาฝ้า กระตื้น กระลึก ทำอย่างไร?

รูปภาพนักเขียน: Krit Buranayotchkul, MD.Krit Buranayotchkul, MD.

ปัญหาผิวเรื่อง ฝ้า กระ เป็นปัญหาที่เห็นได้ชัดบนใบหน้า เพราะสีผิวที่ดูไม่สม่ำเสมอ มีทั้งจุดด่างดำเล็กๆ หรือรอยดำปื้นๆ ที่เห็นได้ชัด แต่งหน้าก็ปกปิดได้ยาก ทำให้ ฝ้า กระ กลายเป็นปัญหากวนใจแทบจะเป็นอันดับต้นๆ ของปัญหาผิว และหลายๆ คนพยายามหาวิธีการในรักษา หรือกำจัดฝ้า กระ ให้หายไป


วิธีรักษา ฝ้า กระ มีอะไรบ้าง?

ในปัจจุบันมีหลายวิธีในการทำให้ ฝ้า กระ จางลง ในแต่ละวิธีก็ใช้เวลาแตกต่างกันในการรักษา เราอาจแบ่งการรักษาหลักๆ ได้ 4 วิธีคือ

  1. การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

    • ครีมลดฝ้า: ครีมที่มีสารออกฤทธิ์ เช่น ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone), กรดอาซาเลอิก (Azelaic Acid), หรือวิตามิน C ซึ่งช่วยลดการผลิตเมลานิน (สารที่ทำให้ผิวคล้ำ) บนผิวหนัง

    • กรด AHA/BHA: ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้ผิวใหม่เผยออกมา

    • สารกันแดด: ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30-50 ในทุกๆ วัน เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ้าแย่ลงจากแสงแดด

  2. การรักษาด้วยการทำทรีทเมนต์

    • เลเซอร์: การใช้เลเซอร์ชนิดต่างๆ เช่น Q-Switched หรือ Picosecond Laser ช่วยลดฝ้า กระได้ โดยการทำลายเซลล์ที่ผลิตเมลานิน

    • การผลัดเซลล์ผิวด้วยกรด (Chemical Peels): ใช้กรดต่างๆ เช่น กรด Glycolic, TCA (Trichloroacetic acid) ในการผลัดเซลล์ผิวที่หมองคล้ำ ทำให้ผิวใหม่ดูสดใสขึ้น

  3. การรักษาทางการแพทย์

    • การใช้ยาฉีด: เช่น การใช้สารที่มีส่วนประกอบของไฮโดรควิโนน หรือยาฉีดเพื่อลดเม็ดสี

    • การปรึกษาแพทย์ผิวหนัง: เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการรักษาฝ้า เนื่องจากฝ้ากระลึกจะต้องใช้วิธีที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น

  4. การดูแลสุขภาพผิว

    • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด: ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรงในช่วงที่แดดจัด

    • การดื่มน้ำมากๆ และการทานอาหารที่ดีต่อผิว: อาหารที่มีวิตามิน C, E, และสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ จะช่วยบำรุงผิว


ทั้ง 4 วิธี มีข้อแตกต่างกันในเรื่องของ ระยะเวลาและผลที่เห็นหลังรักษา ครีมบำรุงหรือยา อาจจะใช้เวลาในการรักษานานกว่า จางลงได้ช้ากว่า หรือกระบางประเภท จะรักษาได้ด้วยเลเซอร์เท่านั้น เช่น กระลึก, กระเนื้อ เป็นต้น

ในขณะที่การรักษาด้วยเลเซอร์ อาจจะเห็นผลได้เร็วกว่า เพราะแสงเลเซอร์จะเข้าไปจับกับเม็ดสีโดยตรง ทำให้เกิดการแตกตัวออกของเม็ดสีเป็นขนาดที่เล็กลงจนร่างกายสามารถกำจัดออกได้เอง


ฝ้า กระ แตกต่างกันอย่างไร?

ฝ้าและกระมีลักษณะคล้ายกัน แต่ต่างกันในแง่ของสาเหตุ, ตำแหน่งที่เกิด และการรักษา โดยมีรายละเอียดดังนี้:

1. ฝ้า (Melasma)
  • ลักษณะ: ฝ้ามักจะปรากฏเป็นรอยคล้ำขนาดใหญ่ มีสีเข้มเป็นสีน้ำตาลหรือสีเทา ซึ่งมักจะเกิดในบริเวณที่รับแสงแดดมาก เช่น ใบหน้า, แก้ม, หน้าผาก, คาง และเหนือริมฝีปาก

  • สาเหตุ: ฝ้ามักเกิดจากการกระตุ้นของฮอร์โมน เช่น การตั้งครรภ์ (ที่เรียกว่า "หน้ากากคนท้อง"), การใช้ยาคุมกำเนิด, หรือการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนต่างๆ นอกจากนี้ยังเกิดจากการสัมผัสแสงแดดที่มากเกินไป

  • ลักษณะการเกิด: รอยฝ้าจะมีขนาดใหญ่และมักจะมีลักษณะเป็นแผ่นที่กระจายไปในบางจุดบนใบหน้า

  • การรักษา: การรักษาฝ้ามักใช้วิธีการที่เจาะจง เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน (Hydroquinone), การทำเลเซอร์, หรือการใช้สารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว

2. กระ (Freckles)
  • ลักษณะ: กระเป็นจุดเล็กๆ สีเหลืองถึงสีน้ำตาลอ่อน มักจะพบในบริเวณที่โดนแสงแดด เช่น ใบหน้า, คอ, หรือแขน กระจะมีขนาดเล็กและมักจะกระจายตัวเป็นจุดๆ

  • สาเหตุ: กระเกิดจากการสะสมของเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง โดยเฉพาะจากการสัมผัสแสงแดดหรือรังสี UV เป็นระยะเวลานาน

  • ลักษณะการเกิด: กระมักจะเป็นจุดเล็กๆ สีอ่อน เกิดขึ้นตั้งแต่เด็กและมักจะมีแนวโน้มที่จะมีกระเพิ่มขึ้นเมื่อผิวสัมผัสแสงแดดบ่อยๆ

  • การรักษา: การรักษากระอาจจะทำได้โดยการใช้ครีมบำรุงที่ช่วยทำให้จุดกระจางลง, ใช้เลเซอร์, หรือการใช้ครีมกันแดดป้องกันไม่ให้กระเพิ่มขึ้นจากการโดนแสงแดด

ความแตกต่างสำคัญ
  • ขนาดและลักษณะ: ฝ้าจะเป็นแผ่นใหญ่และมีสีเข้ม ส่วนกระจะเป็นจุดเล็กๆ สีอ่อน

  • สาเหตุ: ฝ้ามักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและแสงแดด ขณะที่กระส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสแสงแดดมากๆ

  • การรักษา: ฝ้าอาจต้องใช้การรักษาที่เข้มข้นกว่า เช่น เลเซอร์หรือครีมเฉพาะทาง ขณะที่กระสามารถดูแลได้ด้วยการทาครีมกันแดดและการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารลดจุดด่างดำ


เลเซอร์รักษาฝ้า กระ มีอะไรบ้าง?

การรักษาฝ้าและกระด้วยเลเซอร์มีหลายประเภทที่สามารถใช้ได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของปัญหาผิว และผลลัพธ์ที่ต้องการ ซึ่งแต่ละประเภทของเลเซอร์จะมีคุณสมบัติและการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนี้:

1. เลเซอร์ Q-Switched (Q-Switched Nd:YAG Laser)
  • การใช้: เลเซอร์ประเภทนี้มักใช้ในการรักษาฝ้าและกระ โดยเฉพาะฝ้าที่มีลักษณะสีเข้มและกระที่มีขนาดใหญ่

  • การทำงาน: เลเซอร์ Q-Switched จะปล่อยพลังงานในช่วงเวลาสั้นๆ ที่สูงมาก โดยมีเป้าหมายเพื่อทำลายเม็ดสีเมลานินในผิวที่เป็นฝ้าหรือกระ

  • ผลลัพธ์: เลเซอร์ Q-Switched ช่วยลดเลือนจุดด่างดำจากฝ้าและกระได้ดี และยังสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูเนียนใสขึ้น

2. เลเซอร์ Picosecond Laser
  • การใช้: เลเซอร์ PicoLaser เป็นเลเซอร์ที่มีพลังงานสูงในช่วงเวลาที่สั้นมาก ใช้ได้ทั้งฝ้าและกระ

  • การทำงาน: เลเซอร์ประเภทนี้ทำงานโดยการกระจายพลังงานที่สูงในระยะเวลาสั้นมาก ทำให้เม็ดสีในผิวแตกออกและถูกกำจัดไป

  • ผลลัพธ์: ช่วยลดฝ้าและกระได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดหรืออาการแสบร้อนมากนัก และเหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย

3. เลเซอร์ Fractional CO2 (Fractional Carbon Dioxide Laser)
  • การใช้: เลเซอร์นี้มักจะใช้สำหรับการรักษาฝ้าที่มีลักษณะกระจายหรือฝ้าลึกที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยเลเซอร์ชนิดอื่น

  • การทำงาน: เลเซอร์ CO2 แบบ Fractional จะทำการผลัดเซลล์ผิวอย่างล้ำลึก โดยการใช้พลังงานที่ทำลายเม็ดสีในบริเวณฝ้า หรือกระที่ลึก

  • ผลลัพธ์: ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวเนียนและกระจ่างใส แต่จะต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟู

4. พลังงานแสงเข้มข้นสูง IPL (Intense Pulsed Light)
  • การใช้: IPL มักใช้ในการรักษาฝ้าที่เกิดจากแสงแดดหรือจุดด่างดำที่เกิดจากการผลิตเม็ดสี

  • การทำงาน: IPL ใช้แสงพัลส์ที่มีหลายความยาวคลื่น ซึ่งสามารถปรับให้เหมาะสมกับสีผิวและประเภทของปัญหาผิวที่ต้องการรักษา

  • ผลลัพธ์: ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และลดจุดด่างดำจากฝ้าและกระได้ดี โดยไม่ทำให้ผิวแสบหรือบวมมาก

การเลือกเลเซอร์ที่เหมาะสม

การเลือกใช้เลเซอร์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของฝ้าและกระ, สภาพผิว, และผลลัพธ์ที่ต้องการ คุณควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านผิวหนังเพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของคุณ โดยการทำเลเซอร์สำหรับฝ้าหรือกระจะต้องมีการทำซ้ำหลายครั้ง และควรดูแลรักษาผิวหลังการทำเลเซอร์อย่างเคร่งครัด (เช่น ใช้ครีมกันแดดทุกวัน) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด


เลเซอร์รักษาฝ้า กระ ที่ไหนดี?

การเลือกคลินิกหรือสถานเสริมความงามสำหรับการทำเลเซอร์ฝ้าและกระนั้นสำคัญมาก เพราะต้องคำนึงถึงทั้งความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี ดังนั้นการเลือกสถานที่ที่มีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทำไมต้องทำเลเซอร์รักษาฝ้า กระ ที่ Kritthada Clinic

1. ประสบการณ์ของคุณหมอ
  • ที่ Kritthada Clinic คุณหมอมีประสบการณ์ในการทำเลเซอร์มานานมากกว่า 10 ปี ทั้งการรักษาปัญหาฝ้า กระ ซึ่งเป็นหัตถการหลักของคลินิก และการใช้เครื่องมือที่มีครบเกือบทุกระบบ ในการรักษาฝ้า กระ ทำให้สามารถประเมินสภาพผิวของคุณและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาฝ้ากระของคุณได้ดีที่สุด

2. เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
  • ที่ Kritthada Clinic คุณหมอมีการใช้คัดเลือกเครื่องเลเซอร์ที่มีคุณภาพ มีผลวิจัยทางการแพทย์รองรับและมีความพยายามในการอัพเดทเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่นำมาใช้รักษาฝ้า กระ เช่น Picosecond Laser - PicoSure Pro Laser, Picoplus Laser Q-Switched Nd:YAG Laser - MIIN Laser, Spectra Laser RF Microneedling - Sylsfirm X Plus, New Doublo 2.0, INFINI Vascular Laser - Derma V Laser Fractional Laser - Fractional Thulium LaseMD, Fractional Erbium Laser, Fractional Erbium Peel

  • นอกจากนี้ กริตธาดาคลินิก ยังมีวิธีการรักษาแบบ Chemical Peels, การใช้ยาควบคู่กับเลเซอร์, LED Therapy ร่วมด้วย

  • ด้วยเครื่องมือที่หลากหลายครบครัน วิธีการรักษาและประสบการณ์ของคุณหมอ จึงทำให้เกิดการรักษาแบบ customized treatment plan โดยเลือกเครื่องมือ การตั้งค่าพลังงานในการเลเซอร์ ที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละท่าน ที่สำคัญคุณหมอยังมีเครื่องมือหลายเครื่องที่รองรับสำหรับปัญหาผิวของแต่ละท่าน เพื่อหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน

3. การรีวิวและคำแนะนำจากผู้ใช้บริการ
4. ความสะอาดและมาตรฐานความปลอดภัย
  • กริตธาดาคลินิกมีมาตรฐานความสะอาดและมีมาตรการความปลอดภัย เช่น การฆ่าเชื้อเครื่องมือที่ใช้กับผิวหนังทุกครั้ง, การสวมใส่ถุงมือที่ปลอดภัย และการดูแลหลังการทำเลเซอร์อย่างเหมาะสม การประคบเย็นหลังทำเลเซอร์

5. การปรึกษาก่อนการรักษา
  • กริตธาดาคลินิกให้ความสำรคัญกับการปรึกษาก่อนการทำเลเซอร์ เพื่อที่แพทย์จะสามารถประเมินสภาพผิวของคุณและอธิบายถึงกระบวนการรักษาและข้อควรระวังต่างๆ ก่อนที่จะทำการรักษาจริง สามารถส่งรูปปรึกษาคุณหมอโดยตรงได้ทางนี้ คลิก ปรึกษาคุณหมอ

การทำเลเซอร์ที่ดีจะทำให้ฝ้าหรือกระจางลงอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ต้องทำอย่างถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุด


เลเซอร์รักษาฝ้า กระ ต้องทำกี่ครั้ง?

การทำเลเซอร์ฝ้าและกระจำนวนครั้งที่ต้องทำขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของฝ้าและกระ, ความลึกของเม็ดสี, และการตอบสนองของผิวหนังแต่ละคน แต่โดยทั่วไปแล้วการทำเลเซอร์จะต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและคงทน ดังนี้:

  • ฝ้า: การรักษาฝ้าอาจต้องทำประมาณ 3-5 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างระหว่างการทำเลเซอร์ประมาณ 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์ที่ใช้และสภาพของผิว หากฝ้ามีความลึกหรือรุนแรง อาจต้องทำมากกว่านี้

  • กระตื้น กระแดด: กระมักจะต้องการการทำเลเซอร์ประมาณ 1-2 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างกัน 2-4 สัปดาห์

  • กระลึก: กระลึกมักจะต้องการการทำเลเซอร์ประมาณ 5-10 ครั้งขึ้นไป โดยเว้นระยะห่างกัน 4-8 สัปดาห์ขึ้นไป


เลเซอร์รักษาฝ้า กระ เจ็บไหม?

การทำเลเซอร์ฝ้าและกระแต่ละครั้งจะมีความรู้สึกที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประเภทของเลเซอร์ที่ใช้และความทนทานของผิวของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้วอาจรู้สึกเจ็บหรือไม่สบายตัวเล็กน้อยในระหว่างการทำเลเซอร์ แต่มักจะสามารถทนได้และรู้สึกดีขึ้นหลังการทำเลเซอร์ไม่นาน นี่คือการอธิบายเกี่ยวกับความรู้สึกที่อาจเกิดขึ้น:

  • ความรู้สึก: Picosecond Laser เลเซอร์ชนิดนี้มีความเจ็บน้อยกว่าเลเซอร์ Q-Switched เนื่องจากพลังงานเลเซอร์จะปล่อยออกมาในระยะเวลาสั้นมาก ซึ่งทำให้เจ็บน้อยกว่าหรืออาจจะไม่รู้สึกเจ็บเลย

  • ระดับความเจ็บ: ส่วนใหญ่ผู้ที่ทำเลเซอร์ชนิดนี้จะรู้สึกเหมือนมีการดีดเบาๆ หรือความรู้สึกแสบๆ เมื่อเลเซอร์กระทบผิว แต่จะไม่มีความรู้สึกเจ็บมาก ทนได้

  • ข้อแนะนำ: ทายาชาก่อนทำหัตถการ เพื่อความรู้สึกสบายขณะทำมากขึ้น


เลเซอร์รักษาฝ้า กระ เท่าไหร่?

สอบถามราคา หรือโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ คลิก สอบถามโปรโมชันการรักษา

  • Picosecond Laser - ราคาเริ่มต้นทั่วใบหน้า 7,500.-/ครั้ง

  • Q-Switched Nd:YAG Laser - ราคาเริ่มต้นทั่วใบหน้า 4,000.-/ครั้ง

  • Chemical Peels - ราคาทั่วใบหน้า 1,990.-/ครั้ง


การดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์รักษาฝ้า กระ

การดูแลตัวเองหลังการทำเลเซอร์ฝ้าและกระมีความสำคัญมากเพื่อให้ผลลัพธ์ดีและป้องกันการเกิดปัญหาผิวหนังในภายหลัง นี่คือขั้นตอนและคำแนะนำที่ควรปฏิบัติตาม:

  1. หลีกเลี่ยงแสงแดด หลังทำเลเซอร์ผิวจะไวต่อแสงแดดมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นต้องทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไปเสมอเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV

  2. การบำรุงผิว ทายาและครีมบำรุงที่คุณหมอจ่ายให้ตามขั้นตอน ไม่ควรทาครีมหรือทำให้ผิวระคายเคือง เน้นครีมเพื่อความชุ่มชื้นหลังทำเลเซอร์

  3. หลีกเลี่ยงการขัดหรือถูผิวแรงๆ อย่ากดหรือลอกแผล ผิวอาจมีอาการบวม แดง หรือระคายเคืองในช่วงแรก การรักษากระจะมีสะเก็ดหลังทำประมาณ 7 วัน ควรหลีกเลี่ยงการขัดผิวหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดที่รุนแรง ควรให้สะเก็ดหลุดออกอย่างเป็นธรรมชาติ

  4. ไม่ใช้เครื่องสำอางหนัก หลังจากทำเลเซอร์รักษากระประมาณหนึ่งสัปดาห์ หรือจนกว่าสะเก็ดจะหลุด ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าอย่างหนักหน่วง ควรให้ผิวได้พักฟื้นและหายจากการทำเลเซอร์

  5. ปรึกษาแพทย์หากมีปัญหาผิว หากรู้สึกว่าเกิดการระคายเคืองหรืออาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ที่ทำการเลเซอร์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาเพิ่มเติม

การดูแลตัวเองตามขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้ดีขึ้นและลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวในระยะยาว

รักษากระ ด้วย Pico Laser นพ.กฤษณ์ บูรณโยชนกุล
รักษากระ ด้วย Pico Laser มีสะเก็ดหลังทำ ประมาณ 1 สัปดาห์

รีวิวเลเซอร์รักษาฝ้า กระ

ทำไมต้องทำเลเซอร์รักษาฝ้า กระ ที่ Kritthada Clinic?

Kritthada Clinic เป็นคลินิกเสริมความงามที่ได้รับความนิยมในไทย โดยเฉพาะในด้านการรักษาผิวพรรณและการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย เช่น การทำเลเซอร์เพื่อลดฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆ มีชื่อเสียงในเรื่องการบริการที่มีคุณภาพ และการใช้เครื่องมือที่ทันสมัย โดยเฉพาะการใช้เลเซอร์ชนิดต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพในการรักษาฝ้าและกระ

จุดเด่นของ Kritthada Clinic:

  1. ทำเลเซอร์โดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์เท่านั้น: กริตตาดาคลินิกมีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลและรักษาปัญหาผิวพรรณ และให้คำปรึกษาในการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม

  2. เครื่องมือ เทคโนโลยีเลเซอร์ทันสมัย: คลินิกใช้เครื่องเลเซอร์ที่มีคุณภาพสูง เช่น Q-Switched Nd:YAG, Pico Laser, และเครื่องมิืออื่นๆอีกมากมาย ที่มีประสิทธิภาพในการรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ

  3. การดูแลหลังการรักษา: มีการประคบเย็นหลังทำเลซอร์ทุกเคสภายในคลินิก ดูแลและแนะนำวิธีการดูแลผิวหลังการทำเลเซอร์อย่างครบถ้วน เช่น การทายา ทาครีมกันแดด การป้องกันแสงแดด เพื่อให้ผลลัพธ์ยาวนานและมีประสิทธิภาพ

  4. บรรยากาศคลินิก: คลินิกมีการดูแลในบรรยากาศที่สะอาดและปลอดภัย ทำให้ผู้ใช้บริการรู้สึกสบายใจและมั่นใจในบริการ

  5. บริการให้คำปรึกษาทางออนไลน์: คลิก ปรึกษาคุณหมอ คลินิกมีบริการให้คำปรึกษาก่อนการทำการรักษา ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของตัวเองได้ดีขึ้น


หากคุณสนใจทำเลเซอร์ฝ้ากระที่ Kritthada Clinic, คุณสามารถติดต่อเพื่อนัดหมาย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาและราคาได้โดยตรงจากคลินิกค่ะ โดยการปรึกษาก่อนการรักษาจะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมและเลือกวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับสภาพผิวของคุณ

ติดต่อขอรับคำแนะนำหรือนัดหมายแพทย์ล่วงหน้า

Little Walk Bangna

Line: @kritthadaclinic

098-271-7778


#KritthadaClinic #เลเซอร์กับหมอกฤษณ์ #รักษาฝ้า #รักษากระ #ัรักษากระลึก #PicosecondLaser #PicoLaser #Picosurepro #Picosure #Picoเลเซอร#DermaV #DermaVLaser #Qswitched #SpectraLaser #MiinLaser #รักษารอยสิว #กริตธาดาคลินิก

 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

PicoSure Pro กับ PicoSure ต่างกันอย่างไร?

PicoSure  และ PicoSure Pro  เป็นระบบเลเซอร์ที่ใช้เทคโนโลยี picosecond  (1 พันล้านส่วนของวินาที) ซึ่งช่วยในการรักษาและฟื้นฟูผิวหนัง...

コメント


FIND US
 
สาขา Little Walk บางนาตราด
ติดกับ รพ.ไทยนครินทร์  
769 ห้อง A4 อาคาร Little walk บางนา ถนน บางนา-ตราด เขตบางนา แขวบางนา กรุงเทพมหานคร

098-271-7778

LINE@: @kritthadaclinic

kritthadaclinic@gmail.com

OPENING HOURS
LITTLE WALK บางนา
วันจันทร์ - วันอาทิตย์ 11:30 - 20:30น.

FOLLOW US

  • line-logo-2-300x300
  • White Facebook Icon
  • White Instagram Icon
  • White YouTube Icon
bottom of page